เคยสังเกตลูกตัวเองไหม ว่าเขาอาจจะกำลังประสบปัญหากับการกิน โดยเฉพาะการกินที่ผิดปกติ เช่น กินมากเกินไป หรือหยุดกินไม่ได้ทั้งที่มีความรู้สึกว่าอิ่มแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะละเลยได้ เพราะนั่นอาจเป็นอาการของโรค Binge Eating Disorder ที่จะเกิดขึ้นกับคนในช่วงวัยรุ่น สาเหตุมาจากความเครียด
อาการที่เห็นได้ชัดของโรคหยุดกินไม่ได้ คือ ไม่สามารถห้ามตัวเองได้เมื่อถึงเวลากินข้าว เป็นมากกว่า 2 ครั้งใน 1 สัปดาห์ เป็นระยะเวลามากกว่า 6 เดือน โดยการกินในแต่ละครั้งใช้เวลากินเร็ว แต่กินเยอะ มักแสดงอาการเมื่อรู้สึกเครียด โกรธ หรือมีเรื่องกังวลใจ ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ แสดงว่าลูกคุณกำลังเป็นโรคหยุดกินไม่ได้ จนอาจกลายเป็นปัญหาเรื่องสุขภาพในอนาคตได้ เช่น โรคอ้วน กรดไหลย้อน ไขมันในเส้นเลือด และยังมีความเสี่ยงโรคอื่นๆที่ตามมา แน่นอนว่าถ้าเป็นโรคเหล่านี้ โตมาสมรรถภาพทางเพศก็เสื่อมตามไปด้วย จะเย็ดใครก็คงไม่สู้งาน แถมคนรักอาจจะเบื่อก็ได้ เพราะเป็นปัญหาในการร่วมรัก
วิธีป้องกัน ในกรณีที่คุณไม่อยากให้ลูกมีปัญหาหยุดกินไม่ได้ หรือถ้าจะนำมาใช้กับตัวเองก็สามารถเริ่มทำได้เลย ถือว่าเริ่มเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ถ้าเริ่มในวัยเด็กจะเห็นผลชัดกว่า
– เลี่ยงสื่อที่มีการแสดงรูปของคนที่ผอมมากๆ เพราะอาจจะเกิดความจำเกี่ยวกับรูปร่างผอมและส่งผลเป็นความเครียดในการกิน ทำให้แสดงอาการของโรคหยุดกินไม่ได้ และอาจจะชัดเจนขึ้นช่วงวัยรุ่น
– หัวข้อสนทนาที่พูดคุยไม่ควรเป็นเรื่องที่มีความเครียด และไม่ควรต่อว่าหรือยกเรื่องที่ลูกไม่ชอบขึ้นมาพูดในขณะกินข้าว เช่น ต่อว่าเรื่องผลการเรียน หรือพูดตำหนิการกินอาหารของลูก
– ห้ามตำหนิลูกถ้าเขากินอาหารไม่หมด หรือเลือกกินเฉพาะของที่ตัวเองชอบ เรื่องเล็กๆอาจจะทำให้ลูกเครียดได้ และไม่ควรบังคับให้เขากินอาหารให้หมด ถ้าเหลือให้ทิ้ง
– ก่อนมื้ออาหารไม่ควรให้ลูกกินขนม หรือนม เพราะจะทำให้เด็กกินมื้อหลักได้น้อยลง และหิวในช่วงระหว่างวัน จนต้องกินอาหารว่าง กลายเป็นนิสัยกินจุบจิบ และติดขนมจนต้องกินประจำ
แต่ถ้าเราป้องกันไม่ทัน และลูกแสดงอาการหยุดกินไม่ได้ สามารถแก้ไขได้ ดังนี้
– การวิจารณ์รูปร่าง และน้ำหนักของลูกเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะลูกอาจเครียดมากขึ้นและอาการแย่ลง
– กินข้าวให้เป็นเวลา เช่น มื้อเย็นกินไม่เกิน 1 ทุ่ม หรือกำหนดเวลากินอาหารเพื่อตีกรอบเวลาในการกิน
– ถ้าเขาเข้ามาช่วยคุณทำอาหาร ให้สังเกตว่าเขาพยายามเปลี่ยนวิธีที่คุณทำอาหารหรือไม่ เพราะนั่นอาจจะแสดงให้เห็นว่าลูกมีปัญหาที่เล่าให้คุณฟังไม่ได้